ยินดีต้อนรับ

Welcome To My Blog

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Assignment 5

1. ให้นักศึกษาgadget ต่างๆเพื่อหาคำตอบว่าการใช้งานในgadget นั้นๆสามารถทำอะไรได้บ้างและอย่างไร
2.ให้นักศึกษาสร้างgadget เพิ่ม 1 อย่างจากที่ได้ศึกษาจากข้อ 
           นำเสนองานในชั้นเรียนคราวหน้า เพื่อให้เพื่อนๆได้เรียนรู้ร่วมกั
ตอบ   การแสดงโพสต์ล่าสุด(recent post) และความคิดเห็นล่าสุด(recent comment) ในองค์ประกอบหน้าบล็อก ของ blogger นอกจากสามารถเรียกใช้จาก recent post gadget แล้วยังสามารถประยุกต์ใช้ RSS feed gadget ได้อีกด้วย ขั้นตอนมีดังนี้
1. เข้าสู่การออกแบบหน้าบล็อก จากแผงควบคุม เลือกเพิ่ม Gadget
2. ภายใน gadget พื้นฐาน เลือก ฟีด(Feed) ดังรูป

3. ตั้งค่าฟีด ด้วย URL [ http://YOURSITE.blogspot.com/feeds/posts/default ] YOURSITE คือ ชื่อบล็อก แล้วกด "ดำเนินการต่อ"
หมายเหตุ การแสดงความคิดเห็นล่าสุดใช้ URL [ http://YOURSITE.blogspot.com/feeds/comments/default ]


4. ตั้งค่าการแสดงผลต่างๆ พร้อมดูตัวอย่าง




5. กดบันทึก การโพสต์ล่าสุด(recent posts) หรือความคิดเห็นล่าสุด(recent comments) ก็จะแสดงที่หน้าบล็อก ช่วยเพิ่มความสะดวกให้กับผู้เข้ามาอ่านบล็อกของเราได้มากขึ้น
             
                 แหล่งที่มา  http://www.siamexpert.com/2011/02/recent-post-rss-feed.html





วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Assignment 4

ให้นักศึกษาค้นซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่ใช้ในงานด้านต่างๆคนละ 3 โปรแกรมต่างงานกัน ยกตัวอย่างงานที่เกิดจากโปรแกรมนั้นๆมาด้วย แสดงภาพตัวอย่างที่เกิดจากโปรแกรมนั้นๆมาด้วย
   ตอบ ซอฟต์แวร์ประยุกต์ (application software) หรือซอฟต์แวร์สำหรับผู้ใช้ เพื่อใช้ในการทำงานทั่วไป
แบ่งออกเป็น กลุ่ม
-ซอฟต์แวร์ประยุกต์พื้นฐาน 
-ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน
 ซอฟต์แวร์ประยุกต์พื้นฐาน (basic application) หรือบางครั้งเรียกว่า ซอฟต์แวร์ประยุกต์เอนกประสงค์ (general-purpose) หรือ ซอฟต์แวร์ช่วยเพิ่มผลผลิต (productivity applications)
 ซอฟต์แวร์ประยุกต์เฉพาะงาน (specialized application)เป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกใช้สำหรับงานเฉพาะและสำหรับกลุ่มสาขาอาชีพนั้นๆ
ตัวอย่าง โปรแกรมการใช้งาน มีดังนี้
1. PhotoScape โปรแกรมตกแต่งภาพมากความสามารถ ที่เน้นการตกแต่งภาพให้ดูมีความน่าสนใจและน่ารักยิ่งขึ้น ล่าสุดได้ออกอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดเป็น PhotoScape 3.6 โดยได้เพิ่งลูกเล่นใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้าไปให้น่าใช้กว่าเดิมขึ้นไปอีก เช่น ทำสไลด์โชว์ได้, เพิ่ม Brush และ Clip Art ใหม่ๆ เข้ามา ใครที่เป็นแฟนคลับโปรแกรมนี้มายาวนาน หรือใครที่ไม่เคยใช้มาก่อน แนะนำให้ลองดาวน์โหลดไปเล่นดูครับ ฟรี!! และดีจริงๆ

ตัวอย่างผลงานที่ได้จาก PhotoScape 3.6
แหล่งที่มา  http://www.9tana.com
2. Format Factory (โปรแกรมแปลงไฟล์ แปลงภาพ แปลงเพลง แปลงวีดีโอ ตามต้องการ) : สำหรับโปรแกรม Format Factory เป็นรวมฮิตหรือ โปรแกรมแปลงไฟล์ ทั้ง แปลงภาพ แปลงเพลง และ แปลงวีดีโอ เอาเข้าไว้ด้วยกัน โปรแกรมแปลงไฟล์ ตัวนี้สามารถจัดการได้หมด อย่างเช่นไฟล์ VDO ก็สามารถแปลงไปมาได้ทั้ง MPG/ AVI/ WMV/ FLV/ SWF ไฟล์ เพลง ก็ MP3/ WMA/ MMF/ AMR/ OGG/ M4A/ WAV MP4/ 3GP/ 

หากมาดูในส่วนของ การแปลงรูปภาพ โปรแกรมแปลงไฟล์ ของโปรแกรม Format Factory ก็ไม่น้อยหน้าทั้ง JPG/BMP/PNG/TIF/ICO ได้หมด เท่านั้นยังไม่พอ โปรแกรมแปลงไฟล์ ตัวนี้ยังทำการ Rip ไฟล์จากแผ่น CD เพลงมาเป็น MP3 ก็ยังทำได้ หรือจะจากแผ่น DVD มาทำเป็นไฟล์ VDO ตามต้องการจะเอาไปลงมือถือรุ่นไหนก็ยังเลือกได้ครบ
Supported Multimedia Files (ไฟล์มัลติมีเดีย ที่สนับสนุน กับ โปรแกรมแปลงไฟล์ Format Factory) :
  • ไฟล์หนัง (ไฟล์ภาพยนตร์) : MP4/3GP/MPG/AVI/WMV/FLV/SWF.
  • ไฟล์เพลง (ไฟล์ออดิโอ) : MP3/WMA/AMR/OGG/AAC/WAV.
  • ไฟล์รูปภาพ : JPG/BMP/PNG/TIF/ICO/GIF/TGA.
Program Features (คุณสมบัติ ความสามารถของ Format Factory โปรแกรมแปลงไฟล์) :
1.               โปรแกรมแปลงไฟล์ สนับสนุน แปลงไฟล์หนัง แปลงไฟล์ภาพยนตร์ แปลงไฟล์เพลง แปลงไฟล์รูปภาพ กลับไปกลับมา ได้อย่างลงตัว
1.               ซ่อมแซมไฟล์หนัง (ไฟล์ภาพยนตร์) หรือ ไฟล์เพลง ที่เสีย หรือ ไม่สามารถเปิดได้ ด้วยโปรแกรมเล่นหนัง โปรแกรมเล่นเพลง ให้กลับมาเปิดได้ ตามปกติ
2.               มีระบบ ช่วยลดขนาด ไฟล์มัลติมีเดีย (หนัง เพลง หรือ ภาพ) ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อเหมาะสมกับอุปกรณ์จัดเก็บ หรือเครื่องเล่น
3.               สนับสนุน การเล่นไฟล์บนเครื่อง iPhone / iPod touch / iPad ด้วย โปรแกรมแปลงไฟล์
4.               สามารถ หมุนรูปภาพ (Rotate) ซูม (Zoom) ย่อขยายรูปภาพ
5.               สามารถ RIP หนังออกจากแผ่น DVD ลงมาเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ได้ (DVD Ripper)
6.               รองรับกับอุปกรณ์พกพาทุกชนิดทั้งหลาย
7.               สนับสนุนภาษามากกว่า 62 ภาษา (ไม่มีภาษาไทย)
8.               สนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows ทุกประเภท
Version History (สิ่งที่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในโปรแกรม Format Factory ในแต่ละเวอร์ชั่น) :
1.               สนับสนุน Windows 8 อย่างเต็มรูปแบบ
2.               ปรับปรุงโปรไฟล์ของวีดีโอต่างๆ
3.               แก้ไขข้อผิดพลาดของค่าเริ่มต้น (Default Value) ของ Bitrate และ Resolution
4.               แก้ไขข้อผิดพลาดของซับไตเติ้ล (Subtitle)
5.               แก้ไขปัญหาของระบบ Mixer ในส่วนของไฟล์ MP4
6.               ปรับปรุงในส่วนของหน้าตาของ โปรแกรมแปลงไฟล์ (Format Factory)
ตัวอย่างผลงานที่ได้จาก Format Factory
แหล่งที่มา  http://software.thaiware.com
3. AVIRA Free Antivirus 2013 (โปรแกรมสแกนไวรัส ร่มแดง สแกนไวรัสฟรี) : เชื่อว่าหลายๆ คนคงรู้จัก โปรแกรมสแกนไวรัส ร่มแดง Avira ตัวนี้ ซึ่งเป็น โปรแกรมสแกนไวรัส แจกฟรี (Free Anti-Virus Software) จากประเทศเยอรมันนี ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก โดย Avira Free Antivirus ได้รับรางวัล THE BEST FREEWARE ของโปรแกรมประเภท จาก โปรแกรมสแกนไวรัส  CHIP นิตยสารคอมพิวเตอร์ชื่อดังระดับโลก มั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพและความปลอดภัย


โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง ตัวนี้มีลูกเล่นและ ความสามารถไม่แพ้ โปรแกรมสแกนไวรัส ตัวอื่นๆ ปราบไวรัสได้มากว่า 1 ล้าน พร้อมระบบการ อัพเดท ข้อมูลไวรัสในเครื่องท่าน แบบอัตโนมัติ ให้ไม่ล้าหลัง และตามไวรัสเหล่าร้ายทัน เรียกได้ว่าเป็น โปรแกรมสแกนไวรัส ดาวรุ่งพุ่งแรงที่คอ อินเทอร์เน็ต และ ดาวน์โหลดจะพลาดไม่ได้

Features คุณสมบัติที่โดดเด่นของ โปรแกรมสแกนไวรัส โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง (Avira Free Antivirus) :
  • Avira สามารถสแกนไวรัส ได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น โทนจัน (Trojan) สปายแวร์ (Spyware) มัลแวร์ (Malware) และหนอน (Worm) ที่เป็นอันตราย ต่างๆ
  • โปรแกรมสแกนไวรัส ตัวนี้สามารถ สแกนไวรัส ได้รวดเร็วทันใจแค่ไม่กี่คลิก
  • ทำให้คอมพิวเตอร์ของคุณเสถียร ปลอดภัยแม้กระทั่งเวลาคุณต่อกับสมาร์ทโฟน หรือท่องเว็บไซต์ต่างๆ

 ตัวอย่างผลงานที่ได้จาก โปรแกรมสแกนไวรัส โปรแกรมสแกนไวรัสร่มแดง (Avira Free Antivirus)


แหล่งที่มา  http://software.thaiware.com



วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

Assignment 3

ให้นักศึกษาเขียนระบบการสอนวิชาอะไรก็ได้ในสาขาวิชาสังคมศึกษามา 1 ระบบ อธิบายรายละเอียดโดยใช้หลัก IP0 พอสังเขป

    ตอบ  แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1.5 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เวลา 2 ชั่วโมง
สอนวันที่ 3,5 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550
1. สาระสำคัญ
วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่เกิดเหตุการณ์สำคัญๆ ทางพระพุทธศาสนาขึ้น
ในสมัยพุทธกาล พุทธศาสนิกชนจะยึดถือเอาวันเหล่านั้นเป็นวันที่ควรระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัยเป็นพิเศษ พุทธศาสนิกชนนิยมประกอบศาสนาพิธีเพื่อเป็นการบูชาและประพฤติให้ถูกต้องในวันสำคัญ และพิธีกรรมต่างๆ อย่างเหมาะสม
2. มาตรฐานการเรียนรู้
 1.3 ประพฤติปฏิบัติตนตามหลักธรรม และศาสนพิธีของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนับถือ ค่านิยมที่ดีงาม และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตน บำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม สิ่งแวดล้อม เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
3. มาตรฐานการเรียนรู้ช่วงชั้น
ส1.3.รู้และปฏิบัติตนตามหลักศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยมที่ดีงาม หลักธรรมทางศาสนาที่ตนนับถือในเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง กลุ่มสังคมที่ตนเป็นสมาชิก และสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัว ชุมชนและประเทศชาติ เพื่อการอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
ส1.3.ใช้ภาษาในคัมภีร์ที่ใช้ในศาสนาที่ตนนับถือ และร่วมศาสนพิธีพิธีกรรม วันสำคัญทางศาสนาด้วยความเต็มใจ
4. ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
มีความรู้ ความเข้าใจ บอกความหมาย เห็นความสำคัญ รู้เข้าใจเหตุการณ์สำคัญ ๆและปฏิบัติกิจกรรมที่พึงกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาได้ด้วยความศรัทธาและถูกต้องเหมาะสม
5. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกความหมายความสำคัญ ที่เกิดขึ้นในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
2. ปฏิบัติกิจกรรมที่พึงกระทำในวันสำคัญทางพระพุทธ ศาสนา ได้ด้วยความศรัทธา
6. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
1. ด้านวัฒนธรรมและศาสนา ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนาทะนุบำรุงศาสนา และปฏิบัติตนในแนวทางที่ดี
2. ด้านสังคม ควรมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มีน้ำใจต่อกัน และมีความสามัคคี ทั้งใน
ครอบครัว โรงเรียนและชุมชน
7. สาระการเรียนรู้
วันสำคัญทางศาสนา
- วันมาฆบูชา - วันวิสาขบูชา
- วันอัฏฐมีบูชา - วันอาสาฬหบูชา
- วันธรรมสวนะ
8. กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1 ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ โดยยึดเด็กเป็นสำคัญ
1. นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและ ทำสมาธิ ( 3-5 นาที)
2. ครูทักทายสนทนาประสบการณ์ เกี่ยวกับการปฏิบัติตนในวันสำคัญทางศาสนาว่าเคยปฏิบัติตนอย่างไร และมีความรู้สึกอย่างไร
3. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้และสาระการเรียนรู้
4. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วันสำคัญทางทางศาสนา จำนวน 10 ข้อ
5. แบ่งนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม คละความสามารถ ประกอบด้วย คนเก่ง 1คน ปานกลาง 2 -3 คน และอ่อน 1 คน ครูแนะนำการเรียนรู้บทเรียนอิเรคทรอนิค โดยใช้โปรแกรม power pointโดยนักเรียนต้องร่วมมือกัน และต้องดูแลช่วยเหลือกันในการเปิดบทเรียน อ่านและเรียนรู้ร่วมกัน ใช้คอมพิวเตอร์กลุ่มละ 1 เครื่อง คนที่เก่งจะเปิดบทเรียนอิเรคทรอนิค นักเรียนในกลุ่มเรียนรู้ร่วมกันโดยอ่านเนื้อหาและฟังบทเพลงที่เกี่ยวข้องกับวันแต่ละวัน จบตอนแต่ละช่วงวันสำคัญ แต่ละวันหยุดอภิปรายแสดงความคิดเห็น ครูคอยสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนรายบุคคล และพฤติกรรมการเรียนรู้ของแต่ละกลุ่ม
6. ครูชี้แนะในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแต่ละวันมีความสำคัญอย่างไร วันสำคัญมีอะไรที่เป็นปรากฏการณ์ที่นักเรียนสังเกตเห็นได้
7. นักเรียนและครูช่วยกันสรุปความรู้ที่ได้รับ จากการเรียนรู้บทเรียนอิเรคทรอนิค โดยใช้โปรแกรม power point โดยครูเสริมข้อคิด เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียงให้นักเรียนได้ตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา มีความเอื้อเฟื้อมีน้ำใจทั้งในครอบครัว และสังคม
8.นักเรียนดูภาพประกอบ กิจกรรมวันสำคัญทางศาสนา แล้วร่วมสนทนาซักถามอภิปรายความคิดเห็นเกี่ยวกับภาพ เพื่อให้นักเรียนเข้าใจยิ่งขึ้น โดยครูเป็นผู้ชี้แนะเพิ่มเติมภาพที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญทางศาสนา
9. แจกใบงานที่ 1 เรื่องวันสำคัญทางศาสนา นักเรียนทำใบงาน ครูสังเกตพฤติกรรมการทำงานแต่ละคนแต่ละกลุ่มและคอยให้คำแนะนำ ตอบข้อซักถามของนักเรียน
10. ครูแจกใบงานที่ 2 พร้อมกับให้นักเรียนสรุปเกี่ยวกับภาพว่านักเรียนคนใดเคยได้ปฏิบัติตามภาพ ที่นักเรียนได้เห็นบ้าง
11. ตรวจผลงานร่วมกัน ครูชี้แนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิธีกรรมในแต่ละวัน ของวันสำคัญทางศาสนาพร้อมสรุปข้อที่ควรปฏิบัติกับวันสำคัญ และการอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณี และแนะนำการเรียนในครั้งต่อไป
ชั่วโมงที่ 2 ใช้เทคนิคการเรียนรู้แบบจิ๊กซอร์
1. นักเรียนสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัยและ ทำสมาธิ ( 3-5 นาที)
2 ทบทวนความรู้เดิมจากการเรียนบทเรียนอิเรคโทนิค โดยใช้โปรแกรม
power point ในชั่วโมงที่ผ่านมา
3. ดูภาพและสนทนากับนักเรียน ในเรื่องเกี่ยวกับการไปร่วมพิธีกรรมทางพระพุทธ ศาสนาที่วัดในชุมชน เมื่อครั้งที่ผ่านมาว่ามีกิจกรรมอะไรบ้างนักเรียนได้ร่วมกิจกรรมนั้นอย่างไร และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่จะมีขึ้นต่อจากนี้คือวันใด
4. แบ่งนักเรียนเป็น 5 กลุ่ม คละความสามารถ ให้สมาชิกในกลุ่มเลือกผู้ทำหน้าที่ประธาน รองประธานและเลขานุการ ศึกษาจากใบความรู้ ตั้งชื่อกลุ่มในแต่ละกลุ่มและทำกิจกรรมตามใบงานกำหนด โดยศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับวันสำคัญดังนี้
- วันมาฆบูชา - วันวิสาขบูชา
- วันอัฏฐมีบูชา - วันอาสาฬหบูชา
- วันธรรมสวนะ
5.สมาชิกในกลุ่มได้รับมอบหมายให้ศึกษาเนื้อหาสาระคนละ 1 ส่วน(เปรียบเสมือนได้ ชิ้นส่วนของภาพตัดต่อคนละ 1 ชิ้นและหาคำตอบในประเด็นปัญหาสมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รับเนื้อหาเดียวกันและร่วมกันทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกันอภิปรายหาคำตอบประเด็นที่ผู้สอนมอบหมายให้
5.1 สมาชิกในกลุ่มบ้านของเรา แยกย้ายไปรวมกับสมาชิกกลุ่มอื่นซึ่งได้รับเนื้อหาเดียวกัน ตั้งเป็นกลุ่ม ผู้เชี่ยวชาญ ขึ้นมา และร่วมกันทำความเข้าใจในเนื้อหาสาระนั้นอย่างละเอียด และร่วมกันอภิปรายหาคำตอบประเด็นที่ใบงานกำหนด
5.2 สมาชิกกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ กลับไปสู่กลุ่มบ้านของเรา แต่ละกลุ่มช่วยสอนเพื่อนในกลุ่มให้เข้าใจเนื้อหาที่ตนได้ศึกษาร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ สมาชิกทุกคนก็จะได้เรียนรู้ภาพรวมของวันสำคัญทั้งหมด
5.3 ผู้เรียนทุกคนทำแบบทดสอบ แต่ละคนจะได้คะแนนเป็นรายบุคคล และนำคะแนนของ ทุกคนในกลุ่ม บ้านของเรามารวมกัน (หรือหาค่าเฉลี่ย ) เป็นคะแนนกลุ่ม กลุ่มที่ได้คะแนนสูงสุดได้รับรางวัล
6. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปแนวปฏิบัติตน ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาเน้นการจัดกิจกรรมในวันสำคัญต่างๆ โดยนำแนวคิดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงของพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นแนวปฏิบัติใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นให้ตระหนักถึงคุณค่าของความสำคัญกับการรักษาศีล และปลูกฝังความสามัคคี เสียสละ สร้างความเข้มแข็งให้กับสังคม ชุมชนวัด และปฏิบัติตน ในแนวทางที่ดี และในวันสำคัญต่างๆ ครูนำนักเรียนไปร่วมกิจกรรมที่วัดเพื่อปลูกฝังค่านิยมที่ดีงามให้เกิดขึ้นและนักเรียนทำแบบฝึกหัดจากใบงานและเขียนแผนผังความคิดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ควร ปฏิบัติในวันสำคัญ
7. ทำข้อทดสอบหลังเรียน
8. อุปกรณ์ สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. โปรแกรม power point เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา
2. ใบงานที่ 1 เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา
3. ใบงานที่ 2 เรื่อง เหตุการณ์วันสำคัญทางศาสนา
4. หนังสือ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
5. แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่อง วันสำคัญทางศาสนา จำนวน 10 ข้อ
6. ห้องสมุดโรงเรียนวัดต้นชุมแสง
7. ภาพการแสดงธรรมในวันสำคัญทางศาสนา
9. การวัดผลและประเมินผล
9.1 วิธีการวัด/สิ่งที่วัด
1. การตรวจใบงาน
2. การสังเกตการณ์ทำงานอย่างสร้างสรรค์และมีวิจารณญาณ
3. การสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล
4. การสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม
5. การตรวจผลงานจากแบบทดสอบ
6.การตรวจผลงานแผนผังความคิด
9.2 เครื่องมือวัด
1. แบบประเมินผลการทำข้อทดสอบก่อนเรียน หลังเรียน
2. แบบประเมินพฤติกรรมการอภิปรายและบันทึกผล
3. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคลและรายกลุ่ม
4. แบบบันทึกประเมินการฝึกปฏิบัติใบงานที่ 1 และใบงานที่ 2
9.3 การประเมินผล
1. ผลการปฏิบัติใบงานที่ 1
2. ผลการปฏิบัติใบงานที่ 2
3.ผลการปฎิบัติจากการทำแผนผังความคิด
4. ผลทดสอบหลังเรียน
เกณฑ์การวัด
ผ่านเกณฑ์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไป
ไม่ผ่านเกณฑ์ นักเรียนผ่านเกณฑ์ประเมินน้อยกว่าร้อยละ 50
          แหล่งที่มา  http://niramolboonme.exteen.com/20070814/social-plan

สรุป การสอนโดยใช้หลัก (IPO)


Input
Process
Output
    ครูผู้สอน
    การทำกิจกรรม
    ได้ความรู้ความเข้าใจ
    นักเรียน/นักศึกษา
    การทำการบ้าน
    ได้ทักษะ
    เนื้อหาการเรียนรู้
    การสอบ
    ได้ทัศนะคติที่ดี
    วัตถุประสงค์
    การประเมิน

    แผนการเรียน


    สื่อการเรียนการสอน